จากลูกแม่ค้าส้มตำ สบช่องทำธุรกิจเช่าชุดแต่งงาน จนทะลุร้อยล้านต่อปี

การเช่าชุดแต่งงานเป็นหนึ่งในความนิยมของคู่รักหลาย ๆ คน ที่จูงมือเดินเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก จนเปิดให้โอกาสการทำธุรกิจร้านเช่าชุดแต่งงานเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในธุรกิจนั้นได้แก่ Full rich ร้านเช่าชุดแต่งงานใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยมีชุดให้เลือกกว่า 4,000 ชุด พร้อมการบริการที่มอบให้คู่รักอย่างสุดฝีมือ จนทำให้ธุรกิจ Full rich มีรายได้ทะลุร้อยล้านบาทต่อปี 


        ธุรกิจ  Full rich ก่อตั้งโดยคุณปิยาภัสร์ ค้ำชู หรือคุณตั๊ก ที่อดีตเคยเป็นลูกแม่ค้าขายส้มตำมาก่อน ที่ต้องฝ่าฟันความยากลำบากด้วยการรับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้าตั้งแต่อายุ 8 ขวบจนทำให้ได้รับประสบการณ์ด้านการตัดเย็บอย่างเต็มเปี่ยม  กระทั่งกลายเป็นนักธุรกิจร้อยล้านได้ตอนอายุเพียง 31 ปีเท่านั้น ซึ่งคุณตั๊กได้เล่าย้อนถึงเรื่องราวครั้นอดีตก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่งานด้านเช่าชุดแต่งงานอย่างจริงจังว่า สาเหตุที่หันมาทำธุรกิจชุดเช่าแต่งงานนั้น เพราะเมื่อสามปีที่ผ่านมาได้เล็งเห็นว่าธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตค่อนข้างมาก อีกทั้งในปี ๆ หนึ่งมีคู่รักแต่งงานกันเยอะ และส่วนตัวก็มีพื้นฐานด้านงานตัดเย็บอยู่แล้ว ยิ่งเวลาเห็นคู่รักแต่ละคู่ใส่ชุดแต่งงานสวยสง่างามด้วยแล้ว ยิ่งมีความสุขที่สุด ดังนั้นสิ่งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ Full rich ขึ้นมา โดยมีสินค้าให้บริการหลายรูปแบบ  แต่หลัก ๆ แล้วมักจะเป็นชุดแต่งงานที่ให้เช่ามากกว่า ซึ่งมีราคาหลายระดับให้ลูกค้าได้เลือกตามความต้องการอีกด้วย แต่จะแบ่งระดับราคาเป็นห้องๆ ดังนี้

            1.ห้องเริ่มต้น จะจัดราคาเช่าอยู่ที่ 12,000 -13,000บาท

            2.ห้องกลางๆ  ราคาค่าเช่า 16,000 -19,000 บาท

            3.ห้องบนๆ  ราคาค่าเช่าจะอยู่ที่ 20,000 ขึ้นไป…(เป็น limited edition)

        ส่วนสำหรับชุดอื่นๆ เช่น ชุดไทยราคาเช่าจะอยู่ที่ 7,500-25,000บาท ชุดหมั้นจีนราคาเช่า 4,500-15,000บาท ชุดสูทและชุดพระราชทานสูทราคาเช่า 4,500บาท หรือแม้แต่ชุดราตรีเพื่อนเจ้าสาวราคาเช่า 1,000-3,000 บาท เป็นต้นรวมไปถึงมีการถ่าย Pre-wedding ให้ด้วย โดยถ้าถ่ายภายในกรุงเทพฯราคาจะอยู่ที่ 19,999 บาทส่วนถ้าถ่ายตามต่างจังหวัดราคาจะอยู่ที่ 25,999 บาท นอกจากนี้ทางร้าน Full rich ได้มีบริการให้ยืมเครื่องประดับฟรีอีกด้วย เช่นเครื่องประดับชุดไทยครบเซ็ทกว่า 200 ชุด เครื่องประดับชุดแต่งงานครบเซ็ทกว่า 300 ชุด รองเท้าชุดไทย รองเท้าชุดแต่งงาน (เมื่อเช่าชุดแต่ง 20,000บาทขึ้นไป) และโบ,ไท,คัพลิงค์,สำหรับชุดเจ้าบ่าว เป็นต้น

         นอกจากนี้คุณตั๊กยังได้พูดถึงจุดแข็งของธุรกิจ Full rich ว่า ถ้าหากให้มองในภาพรวมของตลาดเกี่ยวกับธุรกิจเช่าชุดแต่งงานแล้ว นับว่ามีอยู่จำนวนมาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่สามารถจะตีตลาดได้ ต้องมีการสร้างจุดแข็งให้กับธุรกิจตนเอง โดยสร้างความโดดเด่นให้เหนือกว่าธุรกิจอื่น อย่างเช่นทางร้าน Full rich ส่วนมากจะเป็นสินค้าที่ทำมือ ซึ่งจะเน้นรายละเอียด ความประณีตเป็นหลัก พร้อมทั้งเป็นงานทำด้วยมือที่มีช่างกว่า 20 คน คอยให้บริการลูกค้า ปรับเปลี่ยนแก้ไข้ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าตลอดเวลา รวมไปถึงภายในร้านมีจำนวนชุดแต่งงานที่มีให้เลือกมากกว่า 4,000 ชุด ในราคาหลายระดับที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้ลูกค้าสามารถเจาะจงตามราคาที่ตนเองต้องการได้ ทั้งยังมีข้อระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจน ครอบคลุมความรับผิดชอบการแบ่งขอบเขตงานอย่างเป็นระบบ จนลูกค้าบางท่านมองว่าร้านนี้ทำไมเรื่องเยอะจัง แต่ถ้าให้มองกลับกันแล้ว เรื่องการแต่งงานนั้นเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง จึงไม่ควรมีข้อผิดพลาดใดๆเกิดขึ้น จนลูกค้าหลายท่านให้ความไว้วางใจในการบริการของ Full rich ที่มอบให้หลายพันคู่รักต่อปี ด้วยเหตุนี้เองที่ Full rich สามารถสร้างเม็ดเงินร้อยล้านได้สบาย ๆ

          สำหรับธุรกิจให้เช่าชุดแต่งงานที่ดูเหมือนจะไม่น่าสร้างรายได้มากเท่าไรนัก คุณตุ๊กยังได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าหากสามารถสร้างจุดแข็งให้แก่ธุรกิจได้แล้ว ก็เหมือนการสร้างกำแพงเมืองที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นการป้องกันคู่แข่งทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นการมีรายได้ 100 ล้าน จึงเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยากหากมีแผนธุรกิจที่ดี



ที่มา : smart sme

Share this

Related Posts

Previous
Next Post »