คุณอนันต์ เดชอนันต์ชาติ เติบโตมาจากครอบครัวชาวจีน เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของครอบครัว และด้วยความที่เป็นพี่ชายคนโต ต้องทำงานทุกอย่างตั้งแต่วัย 12 ปี กับอาชีพแรกคือ การขายของบนรถโดยสาร ก่อนที่จะมาเป็นลูกจ้างขายปาท่องโก๋ และตามมาด้วยการเป็นเด็กเสิร์ฟร้านก๋วยเตี๋ยวราดหน้า แต่ชีวิตไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ หลังจากที่ร้านก๋วยเตี๋ยวขายไม่ดีก็ต้องออกมาช่วยญาติทำงาน ซึ่งต้องทำทุกอย่างกับรายได้เพียงเดือนละ 30 บาท ต่อมาเตี่ยได้เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเองจึงโดนเรียกกลับมาให้ช่วยงานที่บ้านทั้งขายก๋วยเตี๋ยว หาบทอดมัน ปลาหมึกปิ้ง และขายเฉาก๊วย ซึ่งชีวิตช่วงนั้นค่อนข้างยาวนานกับการหาบของขาย แต่ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจในวัยเด็กที่ไม่ได้เรียนหนังสือเพราะความยากจน จึงเป็นแรงกระตุ้นความคิดว่าเราจะต้องรวยให้ได้
พอเข้าช่วงวัยรุ่นอายุ 15 ปี กลายเป็นลูกจ้างร้านขายผ้าอยู่ที่ตลาดสำเพ็ง โดยได้เรียนรู้จากเถ้าแก่ในหลายเรื่อง เพราะสำเพ็งในตอนนั้นถือเป็นมหาวิทยาลัยชีวิตที่ปั้นเถ้าแก่จนกลายเป็นเศรษฐีของเมืองไทยมาแล้วหลายตระกูล และสิ่งนี้เองที่ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องการค้าจากมหาวิทยาลัยสำเพ็งแห่งนี้หลายเรื่อง ดังนั้นก่อนที่จะลาออกจากการเป็นลูกจ้าง ได้หันมาทดลองทำโรงงานพลาสติกของตัวเอง ด้วยเงินทุนเริ่มต้นเพียง 6,000 บาท และประสบความสำเร็จจากการทำตุ๊กตาขาย จนมีอาชีพอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นการร่วมทางกับเจ้าของบริษัทศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ ทำคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรขาย และเปิดโรงงานลูกอมชื่อ โอซาก้า เปิดรีสอร์ทชื่อโยโกะ ริเวอร์แคว ที่จังหวัดกาญจนบุรี จนกระทั่งคุณอนันต์กลับสร้างอาณาจักรของตัวเองโดยไม่ต้องกู้เงินธนาคาร ด้วยการทำธุรกิจผลิตภัณฑ์ความงาม “โยโกะ” และผลิตภัณฑ์ความงามอื่นๆ อีกหลายแบรนด์
เครื่องสำอางโยโกะเริ่มมาจาก 20 ปีที่แล้ว โดยคุณอนันต์ได้เล็งเห็นศักยภาพตลาดครีมตัวหนึ่ง ในสมัยนั้นที่ขายเพียงตลับละ 5 บาท แต่ต้นทุนไม่ถึง 2 บาท และมองว่ากำไรดี ก็เลยตัดสินใจลองทำครีมบำรุงผิวหน้าขายบ้าง แต่กลับไม่เป็นไปตามฝัน เพราะถ้าไม่มีคนรู้จักก็จะทำการตลาดค่อนข้างยาก กระทั่งเห็นว่าครีมที่เราเก็บไว้ก็ใกล้จะหมดอายุ คุณอนันต์จึงให้คนที่รู้จักเขาลองนำไปขายที่ประเทศกัมพูชาฟรีๆ แต่ปรากฏว่าเขาขายได้ และสุดท้ายก็มาสั่งให้เราผลิตเพิ่ม ซึ่งตอนนั้นเรากลับประสบปัญหาทางด้านมีคู่แข่ง เพราะเขาทำครีมออกมา ซึ่งใช้วิธีการแจกของพ่วงกับสินค้าด้วย ดังนั้นเราก็ทำเช่นเดียวกับเขาบ้าง แต่ผลลัพธ์ครีมที่เขาทำนั้นใช้แล้วขาวจริง โดยที่เขาได้ใส่สารปรอทลงไป แต่เมื่อรู้เช่นนั้นคนที่รับของเราไปจำหน่ายก็ขอให้เราผลิตแบบนั้นบ้าง ซึ่งเราทำไม่ได้เพราะไม่อยากทำร้ายคนอื่น เลยตัดสินใจเลิกขายไป
หลังจากนั้นคุณอนันต์ ก็เริ่มต้นหันมาผลิตเครื่องสำอางโยโกะ เพราะตลาดเครื่องสำอางกำไรดี และมีความต้องการในตลาดสูง โดยทำการศึกษาเรื่องสมุนไพรเกี่ยวกับผิวหนังจนเชี่ยวชาญ และนำมาเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางโยโกะ ในช่วงแรกได้ทดลองตลาดโดยไปร่วมงานออกบูทแสดงสินค้าที่เมืองทองธานี แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ อีกทั้งได้ไปออกงานที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน จึงคิดที่จะนำเครื่องสำอางไปฝากขายกับพรรคพวกแถวสำเพ็ง ประตูน้ำ แบบไม่เอาเงินก่อน แต่กลับถูกปฏิเสธมา เพราะเป็นสินค้าโนเนมไม่มีคนรู้จัก ฉะนั้นก็ลองไปออกบูทตลาดต่างประเทศดูบ้าง เริ่มจากไปบูทที่ฮ่องกงก็ขายไม่ได้อีก แต่ในขณะเดียวกันลูกชายได้ให้กำลังใจ พร้อมกับติดต่อให้ไปออกบูทที่ดูไบ ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นจุดพลิกผัน โดยเราตัดสินใจให้สินค้าเขาลองนำไปขายดูก่อน และยังไม่เก็บเงิน และสุดท้ายก็สามารถขายสินค้าได้ ซึ่งเขาก็บอกว่าสินค้าโยโกะของเรามีคุณภาพดี รวมไปถึงทางเราก็รับเขามาเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศแถบตะวันออกกลางนับตั้งแต่นั้นมา ดังนั้นในปัจจุบันเครื่องสำอางโยโกะได้มีผลิตภัณฑ์ในเครือกว่า 200 ชนิด มีตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกกว่า 60 ประเทศแล้ว และภายในประเทศไทยนี้ เราก็มีช่องทางการขายผ่านตัวแทน คอนวีเนียนสโตร์ และร้านสะดวกซื้อ 7-11 อีกด้วย
ที่มา : smart sme