ชีวิตดี๊ดี!! ด้วย “ไอเดียมหาเศรษฐี” กับ "วิถีรวย" ที่เป็นไปได้


ชีวิตดี๊ดี!! ด้วย “ไอเดียมหาเศรษฐี” กับ "วิถีรวย" ที่เป็นไปได้ !?


         หลายๆคนพอได้ยินคำว่า "เศรษฐี " ต่างก็พากันนึกถึงพวกนักธุรกิจมาดเท่ห์ที่มีงานอดิเรกเป็นการสะสมรถยนต์ เดินทางไปไหนมาไหนด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว และชีวิตหรูเปรียบเสมือนพระราชา มีเงินเก็บนับสิบล้าน

         ในยุคปัจจุบัน"เศรษฐี" หลายๆคนกลับใช้ชีวิตไม่ต่างอะไรกับชนชั้นกลางธรรมดาๆอย่างเราๆท่านๆส่วนใหญ่มากนัก พวกเขาทำงานทุกวันและซื้อของตอนลดราคาเหมือนกัน สิ่งที่ทำให้ "เศรษฐี" เหล่านี้เป็น "เศรษฐี" ได้คือ ความมีอิสระในชีวิต นั่นคือ สามารถส่งลูกเข้าเรียนโรงเรียนดีๆได้ และถ้าหากรำคาญนัก ก็สามารถลาออกจากงานประจำได้โดยไม่ต้องสนใจว่าถ้าไม่มีงานประจำแล้ว จะดำเนินชีวิตอยู่ได้มั้ย

         แนวโน้มที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้แสดงให้เห็นว่า ไม่เพียงแต่คนส่วนใหญ่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่เหล่า "เศรษฐี" ก็เริ่มจะมีอัตราส่วนที่เยอะขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วยเช่นกัน เคล็ดลับของคนเหล่านี้คืออะไร ไปค้นหาคำตอบกันเลย

        1. มีความเชื่อมั่นว่าต้องรวย ความต้องการและความปรารถนาที่จะร่ำรวยเป็นขั้นตอนแรกที่มีความสำคัญยิ่ง คนส่วนมากมักจะกลัวที่จะจินตนาการว่าตนเองร่ำรวย และนั่นทำให้พวกเขาเหล่านั้นไม่กล้าที่จะคิดทำการใหญ่ ทำอะไรใหญ่ๆ คิดแต่เรื่องเล็กๆ และในเมื่อไม่มีแม้กระทั่งความคิด การกระทำก็เลยไม่เกิดตามมา คุณต้องอย่ากลัวที่จะกล้าฝันในสิ่งที่ห่างจากความเป็นจริงในปัจจุบันมากๆ หรือถ้ายังกลัวอยู่ ลองดูสถิตินี้นะครับ เศรษฐีชาวอเมริกัน ร้อยละ 80 เคยมีฐานะเป็นชนชั้นกลางเหมือนเราและท่านมาก่อนทั้งนั้น เพราะฉะนั้น จงอย่ากลัวและมีความเชื่อมั่นในความสามารถที่จะเป็นคนร่ำรวยของคุณเสีย ณ บัดนี้

        2. ให้การศึกษากับตนเอง คุณไม่จำเป็นต้องเป็นถึงขนาดกูรูของการลงทุน แต่อย่างน้อยที่สุด ก็ควรมีพื้นฐานในการลงทุนอยู่บ้าง ทุกวันนี้พวกเราหลายๆคนลงทุนเงินที่มีอยู่กับธนาคารเสียเป็นส่วนใหญ่ด้วยเหตุผลที่ว่ามันไม่มีความเสี่ยง แต่ในความเป็นจริงก็คือ พวกเราไม่มีความรู้จริงๆจังๆในเรื่องของการลงทุนชนิดอื่นๆต่างหาก เพราะฉะนั้น คุณต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือหรือการพูดคุยกับผู้ชำชาญการลงทุน จากนั้นก็นำมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับสภาพและเป้าหมายทางการเงินของคุณ

        3. ทำในสิ่งที่ตนรัก อีกหนึ่งคำแนะนำสุดฮิต และหลายๆคนบอกว่ามันเป็นไม่ได้หรอกที่จะนำความฝันมาเลี้ยงชีพ ผมเองก็อยากจะถามอยู่เหมือนกันว่า พวกคนเหล่านั้นที่พูดเช่นนี้ ประสบความสำเร็จมาบ้างมั๊ย แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของคนเหล่านั้น เพราะหลายๆครั้ง สถานการณ์มันช่างดูร่อแร่เหลือเกิน ประมาณว่า ค้างค่าเช่าตึกมาแล้ว 3 เดือน ไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนพนักงาน สินค้าที่มีอยู่ขายไม่ออก ฯลฯ สถานการณ์เหล่านี้เป็นการบอกเราว่า "เฮ้ย! กลับไปทำงานกินเงินเดือนต่อเหอะว่ะ" แต่ขอให้หัวดื้อต่อไปเถอะ อย่าไปสนใจเหตุและผล เศรษฐีแทบจะทุกคนย่อมต้องผ่านสถานการณ์นี้กันมาหมด แต่พวกเขาร่ำรวยอยู่ได้ในปัจจุบันก็เพราะความหัวดื้อนี่แหละ

         4. ทำให้เงินของคุณเติบโต พวกเราส่วนใหญ่มักจะรู้จักกับการใช้ชีวิตเป็นวงจรภายในหนึ่งเดือน การที่จะหลุดออกจากวงจรนั้นได้คือการกันเงินส่วนหนึ่ง แล้วเอาเงินนั้นไปลงทุนในที่ที่มันจะสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีอยู่หลากหลายทางเลือก โดยเฉพาะปัจจุบันในโลกของอินเตอร์เน็ต ที่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อเงินที่เรานำเอาไปลงทุนเริ่มที่จะออกดอกออกผลแล้ว อย่าเอามันไปใช้เด็ดขาด! แต่ให้ใส่เงินนั้นกลับเข้าไปใหม่ จนกระทั่งการลงทุนที่มีอยู่เติบโตจนหยุดไม่อยู่ นั่นแหละครับถึงจะเป็นเวลาที่จะคิดนำเงินนั้นไปใช้หรือให้รางวัลกับตัวเองได้ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่

        5. หยุดใช้จ่ายโดยไม่คิด คนที่ร่ำรวยในปัจจุบันส่วนมากมักจะมีค่าใช้จ่ายในการครองชีพเหมือนกับชนชั้นกลาง พวกเขามักจะถามตัวเองด้วยคำถามซ้ำๆซากๆ เช่น นี่คือสิ่งที่จำเป็นหรือสิ่งที่ต้องการ ของสิ่งนี้ควรจะมีราคาเท่าไหร่ ถ้าไปซื้อสินค้าแบบเดียวกันนี้ที่อื่นจะถูกกว่ารึเปล่า เป็นต้น แล้วก็พวกคูปองลดราคาทั้งหลายเนี่ย อย่าคิดนะครับว่าคนรวยจะโยนทิ้ง เพราะคนที่โยนทิ้งส่วนมากก็คือเหล่าชนชั้นกลางนี่แหละคตัวอย่างการใช้ชีวิตโดยคิดก่อนจ่ายของ "เศรษฐี " มีอยู่เยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ซาร่าห์ เบลคลี่ย์ เศรษฐี 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ตัดผมตามร้านตัดผมแถวบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ริค สิกอร์สกี เจ้าของแฟรนไชส์ฟิตแนสมูลค่า 40 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ชอบเอาขวดเปล่าไปเติมน้ำแทนการซื้อน้ำขวด ไม่ว่าจะเป็น เดฟ ลินดาห์ล ที่เคยพูดติดตลกว่า เพื่อนบ้านของเขา (ซึ่งเป็นคนฐานะชนชั้นกลาง) คงจะอึ้งไม่น้อยหากรู้ว่ารายได้ของเขาหนึ่งสัปดาห์เท่ากับรายได้ของพวกเขาหนึ่งปี และตัวอย่างสุดท้ายก็คือ วอร์เรน บัฟเฟตต์ สุดยอดนักลงทุนที่ทั่วโลกรู้จัก ที่ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมที่กับที่เขาซื้อเมื่อ 40 ปีก่อน

         ผลการจัดลำดับของอภิมหาเศรษฐีในไทยโดยนิตยสารฟรอบส์ (Forbes) ที่เพิ่งออกมาไม่นานมานี้เอง ช่างจุดไฟในตามนุษย์เงินเดือนอย่างเราให้ร้อนระอุจริงๆ หลายๆคนก็คงมีความฝันที่จะก้าวไปถึงจุดนั้นบ้าง จริงมั้ย!!

         มหาเศรษฐีเหล่านั้นถ้าเราไปตรวจสอบทรัพย์สินแล้วก็มีการวัดจากมูลค่าหุ้นที่เขาถือ แต่มากไปว่านั้น จริงๆแล้ว “ความรวย” ของเศรษฐีหลายคนเกิดจากการ “สร้างธุรกิจขึ้นมา” และการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ทำให้พวกเขา “เพิ่มความมั่งคั่ง” จากการขยายกิจการหลังการระดมทุน

         นี่คือ “ความลับ” ที่เหล่าเศรษฐีไม่เคยบอกคุณ แต่ต้าร์ กวินจะมีเล่าให้ฟังถึง “3 สเต็ปส์ของการก้าวสู่ความรวย (ฉบับที่คนเป็นเศรษฐีไม่เคยบอกคุณ)” ให้รู้กัน

Credit: https://www.facebook.com/Puttichet/posts/633913046782755:0

Share this

Related Posts

Previous
Next Post »